โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เเนวทางการเเก้ไขปริมาณขยะในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่

ปัญหาขยะล้นเมืองเชียงใหม่

http://news.ch3thailand.com

จากข้อมูลประชากรจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีทั้งหมด 1,600,000 คนแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติ มาเยือนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี จึงทำให้เกิดความแออัด และ ทำให้เกิดปัญหาทางสังคมที่หลากหลาย ทั้งอาชญากรรม และ อุบัติเหตุ รวมถึงปัญหาขยะล้นเมือง

ในแต่ละปีจังหวัดเชียงใหม่ จะมีขยะมากถึง 630,000 ตัน หรือ คิดเป็นวันละ 1,700 ตัน แต่มีโรงกำจัดขยะแบบครบวงจรเพียง 3 แห่ง สามารถรองรับขยะได้เพียงปีละ 510,000 ตัน จึงทำให้เกิดปัญหาขยะตกค้าง และ ต้องใช้วิธีฝังกลบแทนอีกกว่า 120,000 ตัน

ทั้งนี้ นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าจังหวัดได้ร่วมกับท้องถิ่นในการจัดการขยะเพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ขณะนี้กำลังศึกษาข้อมูลร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ ในการแปลงขยะเป็นเชื้อเพลิงทดแทน เพราะที่ผ่านมาโรงกำจัดขยะแบบครบวงจรประสบปัญหาผู้ทำสัมปทานไม่ทำตามระบบ ขาดการบำรุงรักษา ก่อให้เกิดปัญหาต่อชุมชนใกล้เคียง จึงต้องหยุดชลอไปบางโครงการ

สำหรับการแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง นอกจากจะนำขยะไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตโรงไฟฟ้าแล้ว อีกวิธีที่นำมาใช้แก้ไขคือ การแปรรูปสร้างมูลค่าขยะ โดยผู้บริหารในจังหวัดและภาคเอกชน ต้องร่วมมือกันให้ความรู้กับคนในชุมชนตามรูปแบบของ"ประชารัฐ"

https://www.youtube.com/watch?v=dIYOeYh4f-U

เเนวทางการเเก้ไขปริมาณขยะที่มากเกินไป

ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่จำนวนประชากรไทยที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ปริมาณขยะมูลฝอยในประเทศไทยก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปีเช่นกัน ที่ผ่านมาทางรัฐบาลก็ได้หาแนวทางแก้ไขและจัดการกับปัญหาขยะล้นเมือง ด้วยหลากหลายวิธีอย่างนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะยกให้ปัญหาขยะนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ การกำจัดขยะด้วยวิธีการฝังกลบ การจัดทำร่างแผนแม่บทการบริการจัดการมูลฝอยของประเทศที่ใช้วงเงินในการจัดทำถึง 178,000 ล้านบาท การใช้เหมืองร้างที่สูงเท่าตึก 3 ชั้นทำหลุมฝังกลบ จัดตั้งโรงกำจัดขยะไฟฟ้าเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสร้างแห่งแรกขึ้นที่ย่านหนองแขม เพื่อการแก้ไขปัญหาขยะในระยะยาว

แต่หากทุกคนในประเทศไม่ร่วมมือกันช่วยตั้งแต่ “ต้นทางการทิ้งขยะ” ระบบการกำจัดขยะจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็อาจไม่สำเร็จได้ในระยะยาว เพราะต้นทางนับเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่จะช่วยลดปริมาณและปัญหาขยะของประเทศ อีกทั้งยังนำเอาขยะกลับมาใช้ใหม่ให้เป็นประโยชน์ได้ตามวิธีการจัดการขยะด้วยแนวคิด 7R ดังนี้…

https://www.greenery.org/articles/7R/

1. REFUSE : หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของหรือบรรจุภัณฑ์ที่สร้างปัญหา รวมทั้งเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เช่น กล่องโฟม หรือ ขยะมีพิษอื่นๆ
2. REFILL : เลือกใช้สินค้าชนิดเติม
3. RETURN : เลือกใช้สินค้าที่สามารถส่งคืนบรรจุภัณฑ์กลับสู่ผู้ผลิตได้ เช่น ขวดเครื่องดื่มประเภทต่างๆ
4. REPAIR : ซ่อมแซมเครื่องใช้ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ต่อไป
5. REUSE : นำบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เช่น ใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก
6. RECYCLE : แยกขยะที่ยังใช้ประโยชน์ได้ เพื่อให้ง่ายในการจัดเก็บและส่งต่อไปแปรรูป เช่น กระป๋อง ขวดพลาสติก ขวดแก้ว ฯลฯ
7. REDUCE : ลดปริมาณการใช้และหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของสิ่งของต่างๆ

https://www.youtube.com/watch?v=H8-MOA_Iv-k

เสริม : ประชารัฐคือ?

http://chantrawong.blogspot.com/2016/07/blog-post.html

ประชารัฐ คือ การที่ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เข้ามาร่วมช่วยกันแก้ปัญหาและคิดหาทางสร้างอนาคตให้ประเทศไทยผ่านโครงสร้างการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่มุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพคน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมียุทธศาสตร์ที่แน่นอน และหนึ่งในนั้น คือ คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ โดยมีเป้าหมายคือ เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนมีความสุข และมีรายได้เพิ่มขึ้น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ผ่าน 5 ฟันเฟืองหลักได้แก่

การเข้าถึงปัจจัยการผลิต ทั้งด้านทรัพยากรและโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน

การสร้างองค์ความรู้ จากในชุมชนและส่งเสริมความรู้เพื่อสร้างประโยชน์ต่อยอด

การตลาด พัฒนาแบบบูรณาการ ตั้งแต่การวิเคราะห์ตลาดไปจนถึงช่องทางการขายใหม่ๆ

การสื่อสารสร้างการรับรู้เพื่อความยั่งยืน ช่วยสร้างแบรนด์และหาช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อท้องถิ่นและสื่อระดับประเทศ

การบริหารจัดการ ทั้งด้านต้นทุน บัญชี และการบริหารความเสี่ยง

ขอขอบคุณที่มา

http://news.ch3thailand.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/4545/%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.html

http://chantrawong.blogspot.com/2016/07/blog-post.html

https://sites.google.com/site/karkaepayhakhyamulfxy/

https://www.greenery.org/articles/7R/

ค้นหาบล็อกนี้